ความเข้าใจผิด: ฟันของมนุษย์ไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่คิด
เป็นความเชื่อที่ฝังรากลึกในสังคมว่า ฟันของมนุษย์นั้นแข็งแกร่งที่สุดในร่างกาย บ่อยครั้งที่เราเปรียบเทียบความแข็งแกร่งของฟันกับวัสดุแข็งอื่นๆ เช่น เหล็ก หรือเพชร อย่างไรก็ตาม ความจริงแล้ว ฟันของมนุษย์ไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่เราเข้าใจกัน บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของฟัน รวมถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อความแข็งแรงและสุขภาพของฟัน
ฟันแข็งแกร่งแค่ไหนกันแน่?
ความแข็งแกร่งของวัสดุ สามารถวัดได้ด้วยค่าความแข็งตามสเกล Mohs ซึ่งเป็นสเกลที่คิดค้นโดยนักวิทยาแร่ชาวเยอรมัน ฟรีดริช โมส ในปี ค.ศ. 1812 โดยสเกลนี้กำหนดค่าความแข็งของแร่ตั้งแต่ 1 ถึง 10 โดย 1 คือแร่ที่อ่อนที่สุด (เช่น ทัลก์) และ 10 คือแร่ที่แข็งที่สุด (เช่น เพชร)
วัสดุ | ค่าความแข็ง Mohs |
---|---|
ทัลก์ | 1 |
ยิปซัม | 2 |
แคลไซต์ | 3 |
ฟลูออไรต์ | 4 |
อะพาไทต์ (สารเคลือบฟัน) | 5 |
เฟลด์สปาร์ | 6 |
ควอตซ์ | 7 |
บุษราคัม | 8 |
คอรันดัม | 9 |
เพชร | 10 |
ฟันของมนุษย์ประกอบด้วยสารเคลือบฟัน ซึ่งเป็นส่วนที่แข็งที่สุดของฟัน มีค่าความแข็ง Mohs ประมาณ 5 เทียบเท่ากับแร่อะพาไทต์ ในขณะที่กระดูก ซึ่งเป็นส่วนที่เรามักเปรียบเทียบกับฟัน มีค่าความแข็ง Mohs ประมาณ 4 เท่านั้น แม้สารเคลือบฟันจะมีความแข็งมากกว่ากระดูก แต่ก็ยังถือว่ามีความแข็งน้อยกว่าวัสดุอื่นๆ อีกมากมาย เช่น เหล็ก (ค่าความแข็ง Mohs ประมาณ 4-5) และเพชร (ค่าความแข็ง Mohs 10)
ปัจจัยที่ส่งผลต่อความแข็งแรงของฟัน
นอกจากความแข็งตามสเกล Mohs แล้ว ความแข็งแรงของฟันยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย เช่น
- พันธุกรรม: บางคนมีพันธุกรรมที่ทำให้ฟันแข็งแรงกว่าคนอื่น
- อาหารการกิน: การบริโภคอาหารที่มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินดี เพียงพอ ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับฟัน
- สุขอนามัยช่องปาก: การแปรงฟันอย่างถูกวิธีและการใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ ช่วยป้องกันฟันผุและโรคเหงือก ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการสูญเสียฟัน
ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจเกี่ยวกับฟัน
- ฟันเป็นอวัยวะเดียวในร่างกายมนุษย์ที่ไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้
- ฟันของมนุษย์เริ่มต้นพัฒนาตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา
- เด็กทารกมีฟันน้ำนม 20 ซี่ และจะเริ่มผลัดฟันในช่วงอายุ 6-7 ปี
- ผู้ใหญ่มีฟันแท้ 32 ซี่ (รวมฟันคุด)
แม้ฟันของมนุษย์จะไม่ได้แข็งแกร่งที่สุดในร่างกาย แต่ก็เป็นอวัยวะที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิต การดูแลรักษาสุขภาพฟันให้แข็งแรงอยู่เสมอจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม การแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง การใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ และการพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันทุก 6 เดือน เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เรามีสุขภาพฟันที่ดีไปได้อีกนาน
#ฟัน #สุขภาพ #สาระน่ารู้ #ความรู้