พระชนม์ชีพของพระพุทธเจ้าทรงเปี่ยมล้นด้วยเรื่องราวอันทรงคุณค่า และหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่พุทธศาสนิกชนควรศึกษาคือ การออกผนวชถึงสองครั้งในพระชนม์ชีพของพระองค์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ในการค้นหาทางดับทุกข์ การผนวชครั้งแรกเป็นไปตามแบบแผนของกษัตริย์ในสมัยนั้น แต่การผนวชครั้งที่สองคือการละทิ้งทุกสิ่งอย่างเพื่อแสวงหาสัจธรรมอย่างแท้จริง
การผนวชครั้งแรก: ตามแบบแผนกษัตริย์
เจ้าชายสิทธัตถะ กษัตริย์ผู้ครองแคว้นสักกะ เสด็จออกผนวชครั้งแรกเมื่อพระชนมายุ 29 พรรษา เป็นการออกผนวชตามธรรมเนียมของกษัตริย์ในสมัยนั้น โดยมีเป้าหมายเพื่อศึกษาเล่าเรียนศิลปะวิทยาการต่าง ๆ และฝึกฝนตนเองให้เป็นกษัตริย์ที่ทรงคุณธรรม
การผนวชครั้งที่สอง: เส้นทางสู่การตรัสรู้
หลังจากทรงครองราชย์สมบัติอยู่ 13 ปี พระองค์ได้ทอดพระเนตรเห็น "เทวทูตทั้งสี่" ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้พระองค์ตระหนักถึงความไม่เที่ยงแท้ของชีวิต จึงตัดสินพระทัยเสด็จออกผนวชอีกครั้งเมื่อพระชนมายุ 35 พรรษา โดยครั้งนี้พระองค์ทรงตั้งมั่นที่จะค้นหาทางดับทุกข์อย่างแท้จริง พระองค์ทรงศึกษาเล่าเรียนกับอาจารย์หลายท่าน แต่ก็ยังไม่สามารถหาคำตอบที่ต้องการได้ จนในที่สุดพระองค์ทรงบำเพ็ญทุกรกิริยา แต่ก็ไม่ใช่หนทางแห่งการหลุดพ้น พระองค์จึงทรงพิจารณาเห็นว่าการบำเพ็ญทุกรกิริยาไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ จึงทรงหันกลับมาบำเพ็ญเพียรทางจิตด้วยวิธีการ "เดินจงกรม" และ "นั่งสมาธิ" จนกระทั่งพระชนมายุ 35 พรรษา จึงได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์
ข้อแตกต่างของการผนวชทั้งสองครั้ง
หัวข้อ | การผนวชครั้งแรก | การผนวชครั้งที่สอง |
---|---|---|
วัตถุประสงค์ | ตามแบบแผนกษัตริย์, ศึกษาเล่าเรียน | ค้นหาทางดับทุกข์ |
ระยะเวลา | ไม่นานนัก | 6 ปี |
ผลลัพธ์ | กลับมาครองราชย์ | ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า |
การออกผนวชทั้งสองครั้งของพระพุทธเจ้า แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการค้นหาสัจธรรม แม้ว่าการผนวชครั้งแรกจะไม่ใช่เส้นทางที่นำไปสู่การหลุดพ้น แต่ก็เป็นบทเรียนอันล้ำค่าที่ทำให้พระองค์ทรงตระหนักว่า หนทางแห่งการดับทุกข์ที่แท้จริงคือการละทิ้งความสุขทางโลก และมุ่งหน้าศึกษาปฏิบัติธรรมจนบรรลุธรรมในที่สุด
#พระพุทธเจ้า #การผนวช #การตรัสรู้ #พุทธศาสนา