06 ธันวาคม 2563

สัญญาณไฟจราจร: 6 เดือนแห่งการรอคอยในชีวิต

สัญญาณไฟจราจร: 6 เดือนแห่งการรอคอยในชีวิต

⏳ 6 เดือน: เวลาที่เราใช้ไปกับสัญญาณไฟจราจร 🚦

เคยรู้สึกไหมว่าชีวิตเรา dihabiskan untuk menunggu? รอคิว รอรถเมล์ หรือแม้แต่รอสัญญาณไฟจราจร แต่รู้หรือไม่ว่า ในบรรดาการรอคอยทั้งหมดนี้ การรอสัญญาณไฟจราจร อาจกินเวลาในชีวิตเรามากกว่าที่คิด โดยเฉลี่ยแล้ว คนเราใช้เวลากว่า 6 เดือนในชีวิตไปกับการจ้องมองแสงสีแดง เหลือง และเขียว สลับกันไปมา!


🚦 ทำไมต้องเป็น 6 เดือน?

ตัวเลข 6 เดือนนี้ ไม่ได้ถูกสุ่มขึ้นมาลอยๆ แต่เกิดจากการเก็บข้อมูลและคำนวณอย่างละเอียด โดยนักวิจัยจากสถาบัน... ซึ่งคำนึงถึงปัจจัยหลายอย่าง เช่น

  • จำนวนรถยนต์บนท้องถนนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • โครงสร้างพื้นฐานของระบบขนส่งสาธารณะในแต่ละพื้นที่
  • พฤติกรรมการขับขี่ของผู้คน

โดยงานวิจัยชิ้นนี้ ได้ทำการสำรวจประชากรในกลุ่มตัวอย่าง จำนวน ... คน พบว่าโดยเฉลี่ยแล้ว คนเราต้องหยุดรถรอสัญญาณไฟจราจรประมาณ ... ครั้งต่อวัน คิดเป็นเวลารวมประมาณ ... นาทีต่อวัน

ปัจจัย ค่าเฉลี่ย
จำนวนครั้งที่หยุดรถ ... ครั้ง/วัน
ระยะเวลาที่หยุดรถแต่ละครั้ง ... วินาที
ระยะเวลาที่ใช้รอสัญญาณไฟจราจร/วัน ... นาที/วัน
ระยะเวลาที่ใช้รอสัญญาณไฟจราจร/ปี ... ชั่วโมง/ปี

เมื่อนำมาคำนวณตลอดช่วงชีวิตโดยเฉลี่ยที่ ... ปี จึงไม่น่าแปลกใจที่เราต้องใช้เวลามากถึง 6 เดือนไปกับการรอคอยสัญญาณไฟจราจร


💡 แล้วเราทำอะไรกับ 6 เดือนนี้ได้บ้าง?

6 เดือน อาจดูเหมือนไม่นานนัก แต่ลองคิดดูสิว่า เราสามารถทำอะไรได้บ้างในช่วงเวลานั้น

  • เรียนภาษาใหม่ได้อย่างคล่องแคล่ว: หลายคนใฝ่ฝันอยากพูดภาษาที่สามได้ แต่ติดปัญหาเรื่องเวลา รู้ไหมว่า 6 เดือน เพียงพอสำหรับการเรียนภาษาใหม่ ตั้งแต่ระดับเริ่มต้น จนถึงระดับสนทนาได้อย่างคล่องแคล่ว

  • อ่านหนังสือได้กว่า 20 เล่ม: สำหรับหนอนหนังสือทั้งหลาย 6 เดือนเป็นเวลาที่มากพอสำหรับการอ่านหนังสือดีๆ ได้อย่างน้อย 20 เล่ม ซึ่งอาจจุดประกายความคิด และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ให้กับชีวิต

  • ออกเดินทางท่องเที่ยวรอบโลก: 6 เดือน เพียงพอสำหรับการออกเดินทางท่องเที่ยวรอบโลก สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ และเปิดโลกทัศน์ให้กว้างไกล

จะเห็นได้ว่าเวลาที่เรา "เสียไป" กับการรอสัญญาณไฟจราจรนั้น มีค่ามากพอที่จะทำสิ่งต่างๆ ได้อีกมากมาย


🤔 Fun Fact เกี่ยวกับสัญญาณไฟจราจร

  • รู้หรือไม่ว่า สัญญาณไฟจราจรแรกของโลก ถูกติดตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1868 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
  • สัญญาณไฟจราจรในยุคแรกๆ ใช้เพียงแค่สีแดงและสีเขียวเท่านั้น โดยสีแดงหมายถึง "หยุด" และสีเขียวหมายถึง "ระวัง"
  • สีเหลืองถูกเพิ่มเข้ามาในสัญญาณไฟจราจรในภายหลัง เพื่อเตือนให้ผู้ขับขี่เตรียมพร้อมที่จะหยุดรถ


ถึงแม้เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการรอคอยสัญญาณไฟจราจรได้ แต่การตระหนักถึงคุณค่าของเวลาน่าจะช่วยเตือนใจให้เราใช้เวลาในแต่ละวันอย่างคุ้มค่ามากขึ้น เพราะชีวิตเรานั้นแสนสั้น อย่าปล่อยให้เวลาสูญเปล่าไปกับการรอคอยโดยไม่เกิดประโยชน์



#สัญญาณไฟจราจร #เวลา #ชีวิต #funfact

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส