19 พฤศจิกายน 2563

ข้อตกลงสหรัฐฯ-ตาลีบัน: ความหวังริบหรี่ของพลเรือนอัฟกานิสถาน

ข้อตกลงสหรัฐฯ-ตาลีบัน: ความหวังริบหรี่ของพลเรือนอัฟกานิสถาน

ข้อตกลงสหรัฐฯ-ตาลีบัน: ความหวังริบหรี่ของพลเรือนอัฟกานิสถาน

หลังจากความขัดแย้งยาวนานกว่าสองทศวรรษ ข้อตกลงสันติภาพระหว่างสหรัฐอเมริกาและกลุ่มตาลีบันในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ได้จุดประกายความหวังอันริบหรี่สำหรับสันติภาพในอัฟกานิสถาน อย่างไรก็ตาม สำหรับพลเรือนหลายล้านคนที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรง ข้อตกลงนี้นำมาซึ่งความโล่งใจเพียงเล็กน้อย ข้อตกลงดังกล่าวให้ความสำคัญกับการถอนกำลังทหารของสหรัฐฯ และการรับประกันจากกลุ่มตาลีบันในการป้องกันไม่ให้กลุ่มก่อการร้ายใช้ดินแดนอัฟกานิสถานเป็นฐานในการโจมตีสหรัฐฯ และพันธมิตร แต่กลับไม่สามารถแก้ไขปัญหาสำคัญๆ ที่เป็นรากเหง้าของความขัดแย้ง หรือให้การรับประกันที่เป็นรูปธรรมสำหรับการคุ้มครองพลเรือน

ความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อพลเรือน:

ข้อกังวลที่สำคัญประการหนึ่งของข้อตกลงนี้คือการไม่สามารถแก้ไขปัญหาการสังหารพลเรือนอย่างกว้างขวางและเป็นระบบในอัฟกานิสถาน ได้ ตามรายงานของสหประชาชาติ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา พลเรือนกว่า 100,000 คนถูกสังหารหรือบาดเจ็บในความขัดแย้งนี้ มีเพียงในปี 2562 ปีเดียว มีพลเรือนเสียชีวิต 3,804 คน และบาดเจ็บอีก 7,034 คน นับเป็นยอดผู้เสียชีวิตจากพลเรือนสูงสุดในรอบปีนับตั้งแต่สหประชาชาติเริ่มบันทึกข้อมูลในปี 2551

ปี พลเรือนเสียชีวิต พลเรือนบาดเจ็บ
2562 3,804 7,034
2561 3,804 7,189
2560 3,438 7,015

ความรุนแรงไม่ได้ลดลงหลังจากข้อตกลง ในความเป็นจริงแล้ว สหประชาชาติรายงานว่าจำนวนพลเรือนที่ถูกสังหารในอัฟกานิสถานเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของปี 2563 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562

อนาคตที่ไม่แน่นอนสำหรับสิทธิมนุษยชน:

ข้อกังวลอีกประการหนึ่งคือศักยภาพในการย้อนรอยความก้าวหน้าด้านสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นในอัฟกานิสถานในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิงและเด็กผู้หญิง ภายใต้การปกครองของกลุ่มตาลีบัน ผู้หญิงถูกกีดกันจากการศึกษา การจ้างงาน และการมีส่วนร่วมทางการเมือง พวกเขายังเผชิญกับการเลือกปฏิบัติและความรุนแรงอย่างกว้างขวาง แม้ว่ากลุ่มตาลีบันจะให้คำมั่นว่าจะเคารพสิทธิมนุษยชนภายใต้กฎหมายอิสลาม แต่ประวัติศาสตร์ของกลุ่มนี้และคำแถลงล่าสุดได้ทำให้เกิดความสงสัยอย่างมาก

ความท้าทายด้านมนุษยธรรมที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น:

อัฟกานิสถานกำลังเผชิญกับวิกฤตด้านมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง โดยมีประชากรเกือบครึ่งหนึ่งต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเพื่อความอยู่รอด ความขัดแย้งทำให้เกิดการพลัดถิ่นภายในประเทศจำนวนมหาศาล โดยมีผู้คนมากกว่า 4 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในฐานะผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ (IDPs) ความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ความไม่มั่นคง และการขาดความรับผิดชอบทำให้การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ต้องการเป็นเรื่องยาก

ความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาทางการเมือง:

แม้ว่าข้อตกลงสหรัฐฯ-ตาลีบันจะเป็นก้าวแรกสู่สันติภาพ แต่ก็เป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น เพื่อให้บรรลุสันติภาพที่ยั่งยืนในอัฟกานิสถาน จำเป็นต้องมีการแก้ไขปัญหาทางการเมืองที่ครอบคลุมซึ่งเกี่ยวข้องกับทุกฝ่ายในความขัดแย้ง รวมถึงรัฐบาลอัฟกานิสถานด้วย กระบวนการสันติภาพที่นำโดยและเป็นเจ้าของโดยชาวอัฟกานิสถานซึ่งตอบสนองข้อกังวลของกลุ่มต่างๆ ทั้งหมด รวมถึงพลเรือน เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างสันติภาพที่ยั่งยืน

บทสรุป:

ข้อตกลงสหรัฐฯ-ตาลีบันได้มอบโอกาสให้กับสันติภาพในอัฟกานิสถาน อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงนี้ไม่ได้นำมาซึ่งความโล่งใจอย่างแท้จริงให้กับพลเรือนอัฟกานิสถานที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง ความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อพลเรือน ศักยภาพในการย้อนรอยความก้าวหน้าด้านสิทธิมนุษยชน และความท้าทายด้านมนุษยธรรมที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ทำให้เกิดความไม่แน่นอนอย่างมากเกี่ยวกับอนาคต สิ่งสำคัญคือประชาคมระหว่างประเทศต้องให้ความสำคัญกับการคุ้มครองพลเรือน สนับสนุนกระบวนการสันติภาพที่นำโดยชาวอัฟกานิสถาน และจัดหาความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่จำเป็นมากเพื่อบรรเทาความทุกข์ทรมานของประชาชนชาวอัฟกานิสถาน

#อัฟกานิสถาน #ข้อตกลงสันติภาพ #สิทธิมนุษยชน #ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส