ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ดินแดนทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกายังคงเป็นปริศนาสำหรับชาวยุโรปส่วนใหญ่ ดินแดนอันกว้างใหญ่ไพศาลซึ่งทอดตัวจากแม่น้ำมิสซิสซิปปีไปจนถึงมหาสมุทรแปซิฟิกเต็มไปด้วยภูเขาที่สูงตระหง่าน แม่น้ำที่ไหลเชี่ยว และที่ราบอันกว้างใหญ่ ซึ่งเป็นที่อยู่ของชนพื้นเมืองอเมริกันหลากหลายเผ่า หนึ่งในบุคคลแรก ๆ ที่ได้ผจญภัยเข้าไปในดินแดนที่ยังไม่ถูกสำรวจนี้คือ จอห์น โคลเตอร์ นักสำรวจ นักล่าสัตว์ และนักบุญแห่งขุนเขา ซึ่งการเดินทางอันน่าทึ่งของเขาได้ช่วยเปิดเผยความลับของตะวันตกอเมริกา
จอห์น โคลเตอร์ เกิดในรัฐเวอร์จิเนียราวปี ค.ศ. 1774 ไม่ค่อยมีใครรู้เรื่องราวในวัยเด็กของเขามากนัก แต่ในปี ค.ศ. 1803 เขาได้เข้าร่วมในการสำรวจของลูอิสและคลาร์ก ซึ่งเป็นการเดินทางครั้งประวัติศาสตร์ที่ได้รับมอบหมายจากประธานาธิบดีโธมัส เจฟเฟอร์สัน เพื่อสำรวจดินแดนลุยเซียนาที่เพิ่งซื้อมาใหม่ โคลเตอร์พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นสมาชิกที่มีค่าของการสำรวจด้วยทักษะการล่าสัตว์ การแกะรอย และความสามารถในการสื่อสารกับชนพื้นเมืองอเมริกัน
ในช่วงฤดูร้อนปี ค.ศ. 1806 ขณะที่การสำรวจของลูอิสและคลาร์กกำลังเดินทางกลับจากมหาสมุทรแปซิฟิก โคลเตอร์ได้พบกับนักล่าสัตว์กลุ่มหนึ่งที่มุ่งหน้าไปทางตะวันตก เขาตัดสินใจลาออกจากการสำรวจและเข้าร่วมกับนักล่าสัตว์เพื่อสำรวจดินแดนที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก โคลเตอร์ใช้เวลาหลายปีต่อมาในการล่าสัตว์และดักจับสัตว์ในถิ่นทุรกันดาร ซึ่งปัจจุบันคือรัฐไวโอมิง มอนแทนา และไอดาโฮ เขากลายเป็นหนึ่งในชาวยุโรปคนแรก ๆ ที่ได้เห็นสถานที่สำคัญทางธรรมชาติอันน่าทึ่งมากมาย รวมถึงเทือกเขาทีตัน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน และน้ำพุร้อน
หนึ่งในเรื่องราวที่โด่งดังที่สุดเกี่ยวกับจอห์น โคลเตอร์ เกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาวปี ค.ศ. 1807-1808 ขณะที่เขากำลังเดินทางอยู่กับกลุ่มนักล่าสัตว์ พวกเขาได้พบกับชนเผ่าแบล็กฟุต ซึ่งเป็นชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกันที่ขึ้นชื่อเรื่องความดุร้าย แบล็กฟุตไม่พอใจที่เห็นคนผิวขาวในดินแดนของพวกเขา พวกเขาจึงไล่ล่าโคลเตอร์และเพื่อน ๆ ของเขา โคลเตอร์และเพื่อน ๆ พยายามหลบหนี แต่เพื่อนของเขาถูกฆ่าตายทั้งหมด เหลือเพียงโคลเตอร์เพียงคนเดียวที่สามารถหลบหนีมาได้
เรื่องราวการหลบหนีของโคลเตอร์เป็นตำนานเล่าขาน เขาถูกชนเผ่าแบล็กฟุตจับตัวได้ แต่เขาสามารถหลบหนีออกมาได้โดยเปลือยกายและวิ่งเท้าเปล่าเป็นระยะทางกว่า 300 ไมล์ ผ่านดินแดนที่เต็มไปด้วยอันตราย เขาต้องทนกับความหนาวเย็น ความหิวโหย และการถูกชนเผ่าแบล็กฟุตตามล่า แต่เขาก็รอดชีวิตมาได้ด้วยความเฉลียวฉลาด ความแข็งแกร่ง และความมุ่งมั่น
หลังจากการผจญภัยอันน่าทึ่งของเขา จอห์น โคลเตอร์ ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในรัฐมิสซูรี เขาแต่งงานและมีลูก แต่เขาก็ไม่เคยลืมประสบการณ์ของเขาในฐานะนักบุญแห่งขุนเขา เขาเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1813 ด้วยวัยเพียง 39 ปี
แม้ว่าชีวิตของเขาจะจบลงอย่างกะทันหัน แต่เรื่องราวของจอห์น โคลเตอร์ก็ยังคงสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมาย เขานับเป็นสัญลักษณ์ของจิตวิญญาณแห่งการผจญภัย ความกล้าหาญ และความทรหดอดทน เขาเป็นหนึ่งในบุคคลแรก ๆ ที่ได้สำรวจและทำแผนที่ดินแดนตะวันตกของสหรัฐอเมริกา และเรื่องราวของเขาได้ช่วยปูทางสำหรับผู้บุกเบิกและนักตั้งรกรากรุ่นต่อ ๆ มา
#ประวัติศาสตร์ #อเมริกา
บทความ
