15 มิถุนายน 2563

ทำไมการอักเสบของต่อมเหงื่อในรักแร้ถึงเกิดขึ้นได้?

ทำไมการอักเสบของต่อมเหงื่อในรักแร้ถึงเกิดขึ้นได้?

ทำไมการอักเสบของต่อมเหงื่อในรักแร้ถึงเกิดขึ้นได้?

การอักเสบของต่อมเหงื่อในรักแร้ หรือที่เรียกกันว่า Hidradenitis suppurativa (HS) เป็นภาวะเรื้อรังที่ส่งผลต่อต่อมเหงื่อ โดยเฉพาะบริเวณที่มีรูขุมขนจำนวนมากและมีความอับชื้น เช่น รักแร้ ขาหนีบ และใต้ราวนม ภาวะนี้จะทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน เกิดเป็นตุ่มหนอง ก้อนเนื้อ และรูเปิดที่ผิวหนัง ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการเจ็บปวด บวมแดง และมีกลิ่นเหม็นได้ ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกถึงสาเหตุ อาการ การวินิจฉัย และวิธีการรักษาภาวะการอักเสบของต่อมเหงื่อในรักแร้

สาเหตุของการอักเสบของต่อมเหงื่อในรักแร้

แม้ว่าสาเหตุที่แน่ชัดของ HS จะยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่นักวิจัยเชื่อว่าปัจจัยหลายอย่างมีส่วนทำให้เกิดภาวะนี้ขึ้นได้ ได้แก่:

  1. พันธุกรรม: ประมาณหนึ่งในสามของผู้ป่วย HS มีประวัติครอบครัวเป็นโรคนี้ แสดงให้เห็นว่าพันธุกรรมมีบทบาทสำคัญ
  2. ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน: ระบบภูมิคุ้มกันที่ทำงานผิดปกติอาจทำให้ร่างกายโจมตีเซลล์ของตัวเองรวมถึงต่อมเหงื่อ
  3. การอักเสบเรื้อรัง: การอักเสบเรื้อรังในร่างกายอาจส่งผลต่อต่อมเหงื่อทำให้เกิดการอุดตันและติดเชื้อได้
  4. ฮอร์โมน: HS มักพบในช่วงวัยแรกรุ่นและในผู้หญิงที่อยู่ในช่วงมีประจำเดือนหรือตั้งครรภ์ ซึ่งบ่งชี้ว่าฮอร์โมนอาจมีบทบาท
  5. การสูบบุหรี่: การสูบบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของ HS โดยการศึกษาพบว่าผู้ที่สูบบุหรี่มีแนวโน้มที่จะเป็น HS มากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 5 เท่า
  6. โรคอ้วน: ผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนมีแนวโน้มที่จะเป็น HS มากกว่าผู้ที่มีน้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ปกติ

อาการของการอักเสบของต่อมเหงื่อในรักแร้

อาการของ HS อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล บางรายอาจมีอาการเล็กน้อย ในขณะที่บางรายอาจมีอาการรุนแรงและเป็นๆ หายๆ อาการที่พบบ่อย ได้แก่:

  • ตุ่มหนองขนาดเล็กที่เจ็บปวดบริเวณรักแร้ ขาหนีบ ใต้ราวนม หรือรอบทวารหนัก
  • ก้อนเนื้อแข็งใต้ผิวหนัง
  • รูเปิดที่ผิวหนังที่ระบายของเหลวหรือหนอง
  • ผิวหนังรอบๆ บริเวณที่ได้รับผลกระทบมีอาการแดง บวม และเจ็บปวด
  • มีกลิ่นเหม็นจากของเหลวหรือหนองที่ระบายออกมา

การวินิจฉัยการอักเสบของต่อมเหงื่อในรักแร้

แพทย์สามารถวินิจฉัย HS ได้จากการตรวจร่างกายและซักประวัติทางการแพทย์ อาจมีการเก็บตัวอย่างของเหลวหรือหนองเพื่อตรวจหาการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย

การรักษาการอักเสบของต่อมเหงื่อในรักแร้

การรักษา HS มีจุดมุ่งหมายเพื่อบรรเทาอาการ ป้องกันการติดเชื้อ และป้องกันการเกิดแผลเป็น วิธีการรักษาอาจรวมถึง:

  1. การดูแลตนเอง: การรักษาความสะอาดของร่างกาย สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี และหลีกเลี่ยงการโกนขนบริเวณที่ได้รับผลกระทบ
  2. ยา: ยาปฏิชีวนะ ยาต้านการอักเสบ ยาแก้ปวด และยากดภูมิคุ้มกัน
  3. การฉีดยา: การฉีด corticosteroids เข้าไปในบริเวณที่ได้รับผลกระทบเพื่อลดการอักเสบ
  4. การผ่าตัด: ในกรณีที่รุนแรง อาจจำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อระบายหนอง กำจัดต่อมเหงื่อที่ติดเชื้อ หรือแก้ไขรอยแผลเป็น

การป้องกันการอักเสบของต่อมเหงื่อในรักแร้

แม้ว่าจะไม่สามารถป้องกัน HS ได้อย่างสมบูรณ์ แต่การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตบางอย่างสามารถช่วยลดความเสี่ยงหรือความรุนแรงของอาการได้ ได้แก่:

  • รักษาสุขอนามัยที่ดี: อาบน้ำอย่างน้อยวันละครั้งโดยใช้สบู่อ่อนๆ และเช็ดตัวให้แห้งสนิท
  • สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี: หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่รัดแน่นและทำจากผ้าใยสังเคราะห์
  • ควบคุมน้ำหนัก: หากคุณมีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน การลดน้ำหนักสามารถช่วยลดความเสี่ยงของ HS ได้
  • เลิกสูบบุหรี่: การเลิกสูบบุหรี่สามารถช่วยลดความเสี่ยงของ HS และปรับปรุงอาการในผู้ที่เป็นโรคอยู่แล้ว
  • หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น: สิ่งกระตุ้นที่พบบ่อย ได้แก่ ความเครียด เหงื่อออก และความร้อน

HS เป็นภาวะเรื้อรังที่สามารถส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้อย่างมาก หากคุณมีอาการของ HS ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม การรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ สามารถช่วยชะลอการลุกลามของโรคและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนได้

ปัจจัยเสี่ยง คำอธิบาย
พันธุกรรม มีประวัติครอบครัวเป็น HS
ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ร่างกายโจมตีเซลล์ของตัวเอง
การอักเสบเรื้อรัง ส่งผลต่อต่อมเหงื่อ
ฮอร์โมน พบในช่วงวัยแรกรุ่นและในผู้หญิง
การสูบบุหรี่ ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ
โรคอ้วน มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน

#HidradenitisSuppurativa #ต่อมเหงื่ออักเสบ #รักแร้อักเสบ #สุขภาพผิว

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส