16 กุมภาพันธ์ 2563

Recovering from Biased Data: Fairness Constraints Improve Accuracy จริงหรือ?

Recovering from Biased Data: Fairness Constraints Improve Accuracy จริงหรือ?

Recovering from Biased Data: Fairness Constraints Improve Accuracy จริงหรือ?

ในยุคที่ข้อมูลครอบครองทุกสิ่งอย่าง การใช้ข้อมูลเพื่อสร้างแบบจำลองการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) กำลังได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาระบบจดจำใบหน้า การวินิจฉัยโรค หรือแม้กระทั่งการคัดเลือกบุคคลเข้าทำงาน อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่มักถูกมองข้าม คือ ความเอนเอียงของข้อมูล (Data Bias) ซึ่งอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่ยุติธรรม และส่งผลกระทั่งต่อการตัดสินใจที่สำคัญ

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด เช่น อัลกอริธึมในการคัดเลือกผู้สมัครงาน ที่อาจมีความเ偏ื่อมเอนไปยังผู้สมัครบางกลุ่ม เช่น เพศ หรือ เชื้อชาติ อันเนื่องมาจากข้อมูลที่ใช้ฝึกฝนแบบจำลองมีความลำเอียงแฝงอยู่ สิ่งนี้นำไปสู่คำถามที่น่าสนใจว่า เราจะสามารถกู้คืนความแม่นยำของแบบจำลองจากข้อมูลที่ลำเอียงได้หรือไม่ และข้อจำกัดด้านความยุติธรรม (Fairness Constraints) จะช่วยยกระดับความถูกต้องของแบบจำลองได้จริงหรือ?

ความท้าทายของ Data Bias

Data Bias เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ตั้งแต่กระบวนการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ไม่ครอบคลุม ไปจนถึงอคติของมนุษย์ที่แฝงอยู่ในข้อมูล ตัวอย่างเช่น หากข้อมูลที่ใช้ฝึกฝนอัลกอริธึมการปล่อยสินเชื่อส่วนใหญ่มาจากกลุ่มคนที่มีประวัติทางการเงินดีอยู่แล้ว แบบจำลองที่ได้อาจปฏิเสธการให้สินเชื่อกับผู้กู้เงินรายใหม่ หรือผู้ที่มีประวัติทางการเงินไม่ดี เพียงเพราะแบบจำลองขาดความเข้าใจในข้อมูลที่หลากหลาย

Fairness Constraints: เครื่องมือสู่ความยุติธรรม?

Fairness Constraints คือ ชุดของกฎเกณฑ์หรือข้อจำกัดที่นำมาใช้ในการพัฒนาแบบจำลอง เพื่อลดทอนความลำเอียงและส่งเสริมความยุติธรรม ตัวอย่างของ Fairness Constraints เช่น:

  • Demographic Parity: ผลลัพธ์ของแบบจำลองจะต้องเท่าเทียมกันในทุกกลุ่มประชากรโดยไม่คำนึงถึง เชื้อชาติ เพศ หรือ อายุ
  • Equal Opportunity: ทุกกลุ่มประชากรมีโอกาสเท่าเทียมกันในการได้รับผลลัพธ์ที่ต้องการ เช่น โอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อ

การใช้ Fairness Constraints ส่งผลต่อความแม่นยำของแบบจำลองได้หลายทาง ในบางกรณี การจำกัดความเอนเอียงอาจนำไปสู่การลดลงของความแม่นยำโดยรวมของแบบจำลอง อย่างไรก็ตาม งานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่า การใช้ Fairness Constraints อย่างเหมาะสม สามารถช่วยปรับปรุงความแม่นยำของแบบจำลองได้ในระยะยาว

กรณีศึกษา: Fairness Constraints ในการตรวจจับใบหน้า

งานวิจัยจาก MIT ในปี 2018 พบว่า อัลกอริธึมการตรวจจับใบหน้าหลายตัวมีความแม่นยำต่ำกว่าในการระบุใบหน้าของผู้หญิงผิวคล้ำ สาเหตุหลักมาจากชุดข้อมูลที่ใช้ฝึกฝนแบบจำลองขาดความหลากหลาย เมื่อทำการเพิ่ม Fairness Constraints ในระหว่างการพัฒนาแบบจำลอง พบว่าความแม่นยำในการระบุใบหน้าของผู้หญิงผิวคล้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน แสดงให้เห็นว่า Fairness Constraints มีส่วนช่วยในการยกระดับความถูกต้องของแบบจำลองได้จริง

ข้อควรพิจารณาในการใช้ Fairness Constraints

  1. การเลือกใช้ Fairness Constraints ที่เหมาะสมกับบริบทและเป้าหมายของแบบจำลอง
  2. การประเมินผลกระทบของ Fairness Constraints ต่อความแม่นยำของแบบจำลองอย่างรอบด้าน
  3. การตรวจสอบและปรับปรุง Fairness Constraints อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง

บทสรุป

Recovering from Biased Data และการใช้ Fairness Constraints เป็นประเด็นสำคัญที่ต้องคำนึงถึงในการพัฒนา Machine Learning ในยุคปัจจุบัน แม้ว่าการแก้ไขปัญหา Data Bias อย่างสมบูรณ์แบบจะเป็นเรื่องท้าทาย แต่ Fairness Constraints ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยลดทอนความลำเอียง และนำไปสู่การสร้างแบบจำลองที่ยุติธรรมและแม่นยำยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้ Fairness Constraints อย่างเหมาะสมและการประเมินผลกระทบอย่างรอบคอบเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าแบบจำลองที่ได้ส่งเสริมความเท่าเทียมและเป็นประโยชน์ต่อสังคมอย่างแท้จริง

#MachineLearning #DataBias #Fairness #AI

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส