07 กุมภาพันธ์ 2565

เชื้อไฟแห่งความเคลือบแคลง: การท้าทายความเชื่อเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยข้อมูลซ้ำๆ

เชื้อไฟแห่งความเคลือบแคลง: การท้าทายความเชื่อเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยข้อมูลซ้ำๆ

เชื้อไฟแห่งความเคลือบแคลง: การท้าทายความเชื่อเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยข้อมูลซ้ำๆ

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นประเด็นร้อนที่ถกเถียงกันอย่างต่อเนื่องทั่วโลก แม้จะมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มากมายที่สนับสนุน แต่ก็ยังคงมีกลุ่มคนที่ปฏิเสธหรือตั้งข้อสงสัยในเรื่องนี้ ยิ่งไปกว่านั้น การเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือนหรือไม่ถูกต้องซ้ำๆ แม้จะฟังดูไม่น่าเชื่อถือในตอนแรก กลับสามารถส่งผลกระทบต่อความเชื่อของผู้คนได้อย่างน่าประหลาดใจ แม้แต่ผู้ที่เคยเชื่อมั่นในเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศก็อาจเริ่มเกิดความลังเลสงสัยได้เช่นกัน

งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเยล (สมมติว่าเป็นลิงก์อ้างอิง) พบว่าการได้รับข้อมูลที่ปฏิเสธภาวะโลกร้อนซ้ำๆ สามารถลดความเชื่อมั่นของผู้คนที่มีต่อหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ได้ โดยเฉพาะเมื่อข้อมูลนั้นถูกนำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและน่าจดจำ เช่น การใช้ภาพกราฟิกที่เรียบง่าย หรือการยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่ดูเหมือนจะขัดแย้งกับภาวะโลกร้อน เช่น ช่วงเวลาที่มีอากาศหนาวเย็นผิดปกติ

อิทธิพลของ “Illusory Truth Effect”

ปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาที่เรียกว่า “Illusory Truth Effect” อธิบายว่าการได้ยินข้อมูลซ้ำๆ แม้จะเป็นข้อมูลเท็จ ก็สามารถทำให้เรารู้สึกว่าข้อมูลนั้นเป็นความจริงได้ ยิ่งได้ยินบ่อยเท่าไหร่ ความรู้สึกว่าเป็นจริงก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น นี่เป็นกลไกที่ผู้ไม่เห็นด้วยกับเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมักใช้ พวกเขามักจะเผยแพร่ข้อมูลเดียวกันซ้ำๆ ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น โซเชียลมีเดีย เว็บบล็อก หรือแม้แต่การพูดคุยกันในชีวิตประจำวัน

ตัวอย่างข้อมูลที่มักถูกนำมาใช้โต้แย้ง

ข้อมูลที่มักถูกนำมาใช้โต้แย้งเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น “โลกเคยมีช่วงเวลาที่อุณหภูมิสูงกว่านี้มาก่อน” หรือ “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นวัฏจักรธรรมชาติ” แม้ข้อความเหล่านี้จะมีส่วนจริงอยู่บ้าง แต่มักจะถูกนำเสนอแบบตัดตอนหรือบิดเบือน เพื่อสร้างความเข้าใจผิด เช่น การไม่กล่าวถึงความเร็วของการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิในปัจจุบันที่เร็วกว่าในอดีตมาก หรือการไม่ยอมรับว่ากิจกรรมของมนุษย์เป็นปัจจัยเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้

ผลกระทบของความเคลือบแคลงต่อการแก้ไขปัญหา

ความเคลือบแคลงที่เกิดจากข้อมูลบิดเบือนเหล่านี้ สร้างความท้าทายอย่างมากต่อการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มันทำให้ผู้คนลังเลที่จะสนับสนุนนโยบายหรือมาตรการต่างๆ ที่จำเป็นต่อการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และทำให้เกิดความแตกแยกในสังคม ขัดขวางความร่วมมือที่จำเป็นในการรับมือกับวิกฤตนี้

สถิติที่น่าสนใจ

ปี เปอร์เซ็นต์ของประชากรโลกที่เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นภัยคุกคามร้ายแรง
2015 63%
2020 72%
2022 78% (ตัวเลขสมมติ)

แม้สถิติจะแสดงให้เห็นว่าผู้คนส่วนใหญ่ยอมรับว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาจริงจัง แต่ความเคลือบแคลงที่ยังคงมีอยู่ ก็ยังเป็นอุปสรรคสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไข การให้ความรู้ที่ถูกต้อง การตรวจสอบข้อเท็จจริง และการสื่อสารที่ชัดเจน เป็นสิ่งจำเป็นในการต่อสู้กับข้อมูลบิดเบือน และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้เราสามารถร่วมมือกันแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Fun Fact: นักวิทยาศาสตร์กว่า 97% เห็นพ้องต้องกันว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ (อ้างอิงสมมติ: NASA)

การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องร่วมมือกัน เริ่มจากการรับรู้ข้อมูลที่ถูกต้อง และไม่ตกเป็นเหยื่อของข้อมูลบิดเบือน เพื่ออนาคตของโลกและคนรุ่นต่อไป

#ภาวะโลกร้อน #การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ #สิ่งแวดล้อม #วิทยาศาสตร์

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส