19 สิงหาคม 2564

มรสุมรุนแรงในเอเชียใต้คร่าชีวิตผู้คนหลายร้อยและทำให้หลายพันคนต้องพลัดถิ่นฐานตั้งแต่เดือนมิถุนายน

มรสุมรุนแรงในเอเชียใต้คร่าชีวิตผู้คนหลายร้อยและทำให้หลายพันคนต้องพลัดถิ่นฐานตั้งแต่เดือนมิถุนายน

มรสุมรุนแรงในเอเชียใต้คร่าชีวิตผู้คนหลายร้อยและทำให้หลายพันคนต้องพลัดถิ่นฐานตั้งแต่เดือนมิถุนายน

ฤดูมรสุมประจำปีของเอเชียใต้ซึ่งกินเวลาตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงกันยายนมักนำมาซึ่งทั้งความโล่งใจและความหายนะ ในขณะที่ฝนมีความสำคัญต่อการเกษตรและเศรษฐกิจของภูมิภาค แต่ปริมาณน้ำฝนที่มากเกินไปอาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่ม และความหายนะอย่างกว้างขวาง ปีนี้เป็นประจักษ์พยานถึงความโหดร้ายของธรรมชาติ เนื่องจากมรสุมที่รุนแรงได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วหลายร้อยคน และทำให้ประชาชนหลายพันคนต้องพลัดถิ่นฐานในอินเดีย บังคลาเทศ เนปาล และปากีสถาน

อินเดียได้รับผลกระทบอย่างหนักเป็นพิเศษ โดยรัฐอัสสัมและพิหารได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด ปริมาณน้ำฝนที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนทำให้น้ำในแม่น้ำพรหมบุตรและสาขาต่างๆ เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือน ไร่นา และโครงสร้างพื้นฐาน สื่อของอินเดียรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับฝนตกหนักและน้ำท่วมกว่า 200 รายในรัฐอัสสัมเพียงแห่งเดียว ในขณะที่รัฐพิหารมีรายงานผู้เสียชีวิตมากกว่า 100 ราย ภาพจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบแสดงให้เห็นผู้คนติดอยู่ในบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วม รถยนต์ถูกกระแสน้ำพัด และชุมชนทั้งชุมชนจมอยู่ใต้น้ำ

บังคลาเทศประเทศที่อยู่ในที่ราบลุ่มและมีความเสี่ยงต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ก็ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากมรสุมเช่นกัน น้ำท่วมได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วหลายสิบคน และทำให้ประชาชนหลายแสนคนต้องพลัดถิ่นฐาน เขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศซึ่งมีพรมแดนติดกับอินเดียได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยมีรายงานว่าแม่น้ำหลายสายเอ่อล้นตลิ่ง องค์กรช่วยเหลือระหว่างประเทศกำลังทำงานเพื่อให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ แต่สถานการณ์ยังคงเลวร้าย

ในเนปาล ดินถล่มและน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดจากฝนตกหนักได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 100 ราย และส่งผลกระทบต่อประชาชนหลายพันคน พื้นที่ภูเขาทางตอนเหนือและตะวันตกของประเทศมีความเสี่ยงเป็นพิเศษต่อภัยพิบัติที่เกี่ยวข้องกับมรสุม และถนนและโครงสร้างพื้นฐานที่เสียหายได้ขัดขวางความพยายามในการบรรเทาทุกข์

ปากีสถาน แม้ว่าจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากมรสุมน้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้าน แต่ก็ประสบกับฝนตกหนักในบางส่วนของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดปัญจาบและไคเบอร์ปัคตูนควา มีรายงานผู้เสียชีวิตจากฝนตกหนักและน้ำท่วมหลายสิบราย

ภัยพิบัติจากมรสุมในเอเชียใต้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น ซึ่งนำไปสู่เหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้น เช่น มรสุมที่รุนแรงขึ้น การเพิ่มขึ้นของความถี่และความรุนแรงของเหตุการณ์เหล่านี้ก่อให้เกิดภัยคุกคามร้ายแรงต่อชีวิต ทรัพย์สิน และเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ในเอเชียใต้

ในการตอบสนองต่อภัยพิบัติ รัฐบาลในเอเชียใต้กำลังทำงานเพื่อให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งรวมถึงที่พักพิง อาหาร น้ำ และการดูแลสุขภาพ อย่างไรก็ตาม ความท้าทายด้านลอจิสติกส์ ขนาดของความเสียหาย และความเสี่ยงต่อภัยพิบัติที่ตามมา เช่น การแพร่ระบาดของโรค ทำให้ความพยายามในการบรรเทาทุกข์เป็นเรื่องยาก

ชุมชนระหว่างประเทศยังได้ระดมทุนและให้ความช่วยเหลือเพื่อสนับสนุนประเทศต่างๆ ในเอเชียใต้ที่ได้รับผลกระทบจากมรสุม อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องดำเนินการร่วมกันและยั่งยืนมากขึ้นเพื่อเสริมสร้างความยืดหยุ่นและปรับตัวต่อผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในภูมิภาค

ในขณะที่เอเชียใต้กำลังตกอยู่ภายใต้เงื้อมมือของมรสุม ความจำเป็นในการเป็นปึกแผ่นระดับโลก ความร่วมมือ และการดำเนินการเพื่อจัดการกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศก็มีความสำคัญมากกว่าที่เคยเป็นมา ความล้มเหลวในการดำเนินการจะส่งผลร้ายแรงต่อผู้คนหลายล้านคนที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคนี้ ซึ่งพวกเขาต้องพึ่งพามรสุมประจำปีเพื่อการดำรงชีวิต แต่ก็ยังคงมีความเสี่ยงต่อพลังทำลายล้างที่เพิ่มขึ้น

#มรสุม #เอเชียใต้ #ภัยพิบัติทางธรรมชาติ #การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส