เม็ดเลือดขาว หรือ ลิวโคไซต์ (Leukocyte) เป็นส่วนประกอบสำคัญในระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำหน้าที่ปกป้องร่างกายจากสิ่งแปลกปลอม เช่น แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา และปรสิตต่างๆ จุดเด่นที่สำคัญอย่างหนึ่งของเม็ดเลือดขาวที่แตกต่างจากเซลล์เม็ดเลือดแดงคือ การมีนิวเคลียส ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการทำงานและการเจริญเติบโตของเซลล์ บทความนี้จะพาไปสำรวจโลกของเม็ดเลือดขาว ตั้งแต่ชนิด หน้าที่ ความสำคัญ ไปจนถึงโรคที่เกี่ยวข้อง
ชนิดของเม็ดเลือดขาว
เม็ดเลือดขาวแบ่งออกเป็น 5 ชนิดหลักๆ โดยแบ่งตามลักษณะของนิวเคลียสและแกรนูลที่อยู่ในไซโตพลาสซึม ได้แก่
- นิวโทรฟิล (Neutrophils): เป็นเม็ดเลือดขาวที่มีจำนวนมากที่สุด คิดเป็นประมาณ 50-70% ของเม็ดเลือดขาวทั้งหมด ทำหน้าที่กำจัดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราเป็นหลัก โดยการกลืนกินและย่อยสลายเชื้อโรค
- ลิมโฟไซต์ (Lymphocytes): เป็นเม็ดเลือดขาวที่มีบทบาทสำคัญในระบบภูมิคุ้มกันแบบจำเพาะเจาะจง แบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลักๆ คือ
- ทีเซลล์ (T cells) ทำหน้าที่ทำลายเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัสและเซลล์มะเร็ง
- บีเซลล์ (B cells) ทำหน้าที่สร้างแอนติบอดีเพื่อกำจัดเชื้อโรค
- โมโนไซต์ (Monocytes): เป็นเม็ดเลือดขาวที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ทำหน้าที่กลืนกินและย่อยสลายเชื้อโรค เซลล์ที่ตายแล้ว และเศษเซลล์ต่างๆ นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนแปลงไปเป็นแมคโครฟาจ (Macrophages) ซึ่งเป็นเซลล์ทำลายเชื้อโรคที่มีประสิทธิภาพสูง
- อีโอซิโนฟิล (Eosinophils): เป็นเม็ดเลือดขาวที่มีบทบาทในการต่อสู้กับพยาธิและปฏิกิริยาภูมิแพ้
- เบโซฟิล (Basophils): เป็นเม็ดเลือดขาวที่มีจำนวนน้อยที่สุด มีบทบาทในการตอบสนองต่อการอักเสบและปฏิกิริยาภูมิแพ้ โดยการปล่อยสารฮิสตามีน (Histamine) และสารอื่นๆ
ความสำคัญของนิวเคลียสในเม็ดเลือดขาว
นิวเคลียสเป็นส่วนประกอบที่สำคัญอย่างยิ่งของเม็ดเลือดขาว เนื่องจากทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางควบคุมการทำงานของเซลล์ ภายในนิวเคลียสบรรจุ DNA ซึ่งเป็นสารพันธุกรรมที่ควบคุมลักษณะต่างๆ ของเซลล์ รวมถึงการสร้างโปรตีนที่จำเป็นต่อการทำงานของเม็ดเลือดขาว เช่น แอนติบอดี เอ็นไซม์ และสารเคมีต่างๆ
ตัวอย่างเช่น
- นิวเคลียสของบีเซลล์ควบคุมการสร้างแอนติบอดีที่จำเพาะต่อเชื้อโรคแต่ละชนิด
- นิวเคลียสของทีเซลล์ควบคุมการจดจำและทำลายเซลล์ที่ติดเชื้อหรือเซลล์มะเร็ง
- นิวเคลียสของนิวโทรฟิลควบคุมการเคลื่อนที่ไปยังบริเวณที่ติดเชื้อและการกลืนกินเชื้อโรค
หากนิวเคลียสของเม็ดเลือดขาวทำงานผิดปกติ จะส่งผลต่อความสามารถในการต่อสู้กับเชื้อโรคของร่างกาย และอาจนำไปสู่การเกิดโรคต่างๆ ได้
จำนวนเม็ดเลือดขาว
จำนวนเม็ดเลือดขาวในร่างกายของคนเรามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม โดยทั่วไปแล้ว คน dewasa จะมีจำนวนเม็ดเลือดขาวอยู่ระหว่าง 4,500-11,000 เซลล์ต่อไมโครลิตรของเลือด
ชนิดของเม็ดเลือดขาว | จำนวนปกติ (เซลล์ต่อไมโครลิตร) |
---|---|
นิวโทรฟิล | 2,500-7,500 |
ลิมโฟไซต์ | 1,000-4,000 |
โมโนไซต์ | 200-800 |
อีโอซิโนฟิล | 50-500 |
เบโซฟิล | 10-100 |
โรคที่เกี่ยวข้องกับเม็ดเลือดขาว
โรคที่เกี่ยวข้องกับเม็ดเลือดขาว แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
- โรคเม็ดเลือดขาวต่ำ (Leukopenia): เป็นภาวะที่ร่างกายมีจำนวนเม็ดเลือดขาวน้อยกว่าปกติ ส่งผลให้ร่างกายติดเชื้อได้ง่ายขึ้น เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อไวรัส การได้รับเคมีบำบัด โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน
- โรคเม็ดเลือดขาวสูง (Leukocytosis): เป็นภาวะที่ร่างกายมีจำนวนเม็ดเลือดขาวมากกว่าปกติ มักเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าร่างกายกำลังต่อสู้กับการติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม โรคเม็ดเลือดขาวสูงแบบเรื้อรัง อาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรง เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว
Fun Fact เกี่ยวกับเม็ดเลือดขาว
- รู้หรือไม่ว่า เม็ดเลือดขาวมีอายุขัยสั้นกว่าเซลล์เม็ดเลือดแดงมาก โดยมีอายุเพียงแค่ 1-3 วัน ในขณะที่เซลล์เม็ดเลือดแดงมีอายุได้นานถึง 120 วัน
- ในแต่ละวัน ร่างกายของคนเราสร้างเม็ดเลือดขาวใหม่ประมาณ 1 แสนล้านเซลล์ เพื่อทดแทนเซลล์เก่าที่ตายไป
เม็ดเลือดขาวเป็นส่วนสำคัญของระบบภูมิคุ้มกัน การทำความเข้าใจเกี่ยวกับชนิด หน้าที่ และความสำคัญของเม็ดเลือดขาว รวมถึงการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ จะช่วยให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
#เม็ดเลือดขาว #นิวเคลียส #ภูมิคุ้มกัน #สุขภาพ