21 กันยายน 2564

ไขความลับ COVID-19: 6 รูปแบบอาการที่แพทย์ค้นพบ

ไขความลับ COVID-19: 6 รูปแบบอาการที่แพทย์ค้นพบ

ไขความลับ COVID-19: 6 รูปแบบอาการที่แพทย์ค้นพบ

นับตั้งแต่การปรากฏตัวครั้งแรกของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ COVID-19 ในช่วงปลายปี 2019 โรคระบาดนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วโลก สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อสุขภาพของมนุษย์ ระบบเศรษฐกิจ และวิถีชีวิต หนึ่งในความท้าทายที่สำคัญของการรับมือกับ COVID-19 คือ ความหลากหลายของอาการที่ผู้ป่วยแต่ละรายแสดงออกมา ซึ่งสร้างความสับสนและเป็นอุปสรรคต่อการวินิจฉัยและการรักษาอย่างทันท่วงที

ล่าสุด ทีมนักวิจัยจาก King's College London นำโดย ดร. แคลร์ สตีฟส์ ได้เผยแพร่ผลการศึกษาที่น่าสนใจในวารสารทางการแพทย์ชื่อดัง “Nature Medicine” งานวิจัยชิ้นนี้ได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลจากแอปพลิเคชันติดตามอาการ COVID-19 ที่มีชื่อว่า COVID Symptom Study ซึ่งรวบรวมข้อมูลจากผู้ใช้งานกว่า 4 ล้านคนทั่วสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา จากการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลนี้ ทีมนักวิจัยสามารถจำแนกประเภทของอาการ COVID-19 ออกเป็น 6 กลุ่มหลัก โดยแต่ละกลุ่มจะมีลักษณะอาการและความรุนแรงที่แตกต่างกันออกไป

6 รูปแบบอาการ COVID-19 ที่แพทย์ค้นพบ

  1. กลุ่มอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่แบบไม่มีไข้: ผู้ป่วยกลุ่มนี้จะมีอาการคล้ายเป็นหวัดทั่วไป เช่น ไอ เจ็บคอ ปวดหัว ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ สูญเสียการรับรสและกลิ่น แต่จะไม่มีไข้ ประมาณ 1.5 ล้านคนจากกลุ่มตัวอย่างในแอปพลิเคชันจัดอยู่ในกลุ่มอาการนี้
  2. กลุ่มอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่แบบมีไข้: อาการของกลุ่มนี้จะคล้ายกับกลุ่มแรก แต่จะมีไข้ร่วมด้วย โดยผู้ป่วยประมาณ 1.9 ล้านคนจากกลุ่มตัวอย่างมีอาการเช่นนี้
  3. กลุ่มอาการระบบทางเดินอาหาร: ผู้ป่วยกลุ่มนี้จะมีอาการเด่นชัดทางระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง โดยอาจมีไข้ ไอ หรืออาการอื่นๆ ร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้ มีผู้ป่วยประมาณ 1 ล้านคนจากกลุ่มตัวอย่างที่มีอาการเข้าข่ายกลุ่มนี้
  4. กลุ่มอาการรุนแรงแบบมีไข้: ผู้ป่วยกลุ่มนี้จะมีไข้สูง ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ไอมาก เจ็บคอ สูญเสียการรับรสและกลิ่น และอาจมีอาการหายใจลำบากร่วมด้วย โดยประมาณ 1.9 ล้านคนจากกลุ่มตัวอย่างมีอาการดังกล่าว
  5. กลุ่มอาการรุนแรงแบบเหนื่อยล้า: อาการเด่นของกลุ่มนี้คือ อ่อนเพลีย เหนื่อยล้าอย่างหนัก ร่วมกับปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ไอ เจ็บคอ สูญเสียความอยากอาหาร และหายใจลำบาก มีผู้ป่วยประมาณ 8 แสนคนจากกลุ่มตัวอย่างที่มีอาการเข้าข่ายกลุ่มนี้
  6. กลุ่มอาการรุนแรงแบบครอบคลุม: ผู้ป่วยกลุ่มนี้จะมีอาการรุนแรงและหลากหลาย เช่น ไข้สูง ไอมาก หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก ท้องเสีย สับสน เหนื่อยล้าอย่างหนัก และสูญเสียการรับรู้ ซึ่งบ่งชี้ว่าร่างกายกำลังต่อสู้กับการติดเชื้ออย่างหนักหน่วง มีผู้ป่วยประมาณ 6.5 แสนคนจากกลุ่มตัวอย่างที่มีอาการเข้าข่ายกลุ่มนี้ และกลุ่มนี้มีความเสี่ยงสูงที่จะต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล รวมถึงมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากที่สุด

งานวิจัยยังพบความสัมพันธ์ที่น่าสนใจระหว่างกลุ่มอาการ อายุ เพศ และโรคประจำตัว เช่น ผู้ที่มีอายุมาก เพศชาย และมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ หรือโรคปอด จะมีแนวโน้มที่จะมีอาการรุนแรงและอยู่ในกลุ่มอาการที่ 5 หรือ 6 มากกว่า

ตารางแสดงความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มอาการ COVID-19 กับปัจจัยเสี่ยง

กลุ่มอาการ อายุ เพศ โรคประจำตัว ความเสี่ยง
กลุ่มอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่แบบไม่มีไข้ ทุกช่วงอายุ ชาย/หญิง น้อย/ไม่มี ต่ำ
กลุ่มอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่แบบมีไข้ ทุกช่วงอายุ ชาย/หญิง น้อย/ไม่มี ต่ำ - ปานกลาง
กลุ่มอาการระบบทางเดินอาหาร ทุกช่วงอายุ ชาย/หญิง น้อย/ไม่มี ต่ำ - ปานกลาง
กลุ่มอาการรุนแรงแบบมีไข้ > 40 ปี ชาย มี ปานกลาง - สูง
กลุ่มอาการรุนแรงแบบเหนื่อยล้า > 50 ปี ชาย มี สูง
กลุ่มอาการรุนแรงแบบครอบคลุม > 60 ปี ชาย มี สูงมาก

อย่างไรก็ตาม ทีมนักวิจัยเน้นย้ำว่า การจำแนกกลุ่มอาการ COVID-19 นี้ เป็นเพียงแนวทางเบื้องต้นเท่านั้น และไม่ได้ครอบคลุมผู้ป่วย COVID-19 ทุกราย เนื่องจากยังมีผู้ป่วยอีกจำนวนไม่น้อยที่แสดงอาการแตกต่างออกไปจาก 6 กลุ่มนี้ หรืออาจมีอาการที่คาบเกี่ยวกันระหว่างกลุ่ม ดังนั้น การวินิจฉัยและการรักษา COVID-19 จึงควรพิจารณาจากอาการ ประวัติการสัมผัสโรค และผลตรวจทางห้องปฏิบัติการประกอบกัน

ผลการศึกษาครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการทำความเข้าใจธรรมชาติของเชื้อไวรัส COVID-19 และการแสดงออกทางอาการของโรค ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาวิธีการวินิจฉัย การรักษา และการป้องกันโรค COVID-19 ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต

อ้างอิง: https://www.nature.com/articles/s41591-020-1054-4

#โควิด19 #สุขภาพ #การแพทย์ #งานวิจัย

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส