02 กรกฎาคม 2563

5 โรคระบาดในอดีตที่ร้ายแรงกว่าโควิด-19

5 โรคระบาดในอดีตที่ร้ายแรงกว่าโควิด-19

5 โรคระบาดในอดีตที่ร้ายแรงกว่าโควิด-19

การระบาดของโควิด-19 ทำให้ทั่วโลกต้องเผชิญกับความสูญเสียอย่างมหาศาล ทั้งชีวิตผู้คน เศรษฐกิจ และสังคม แต่เชื่อหรือไม่ว่าในอดีต มนุษยชาติเคยผจญกับโรคระบาดที่ร้ายแรงกว่านี้มาแล้ว โรคระบาดเหล่านี้คร่าชีวิตผู้คนไปนับล้าน สร้างความโกลาหล และเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของมนุษย์อย่างสิ้นเชิง

โรคระบาดที่ร้ายแรงกว่าโควิด-19 มีอะไรบ้าง?

บทความนี้ จะพาไปสำรวจ 5 โรคระบาดในอดีต ที่สร้างผลกระทบรุนแรงยิ่งกว่าโควิด-19 พร้อมทั้งเรียนรู้วิธีที่มนุษย์ในยุคนั้นรับมือ และบทเรียนที่เราได้เรียนรู้จากเหตุการณ์เหล่านี้


1. กาฬโรค (The Black Death) - ปี ค.ศ. 1346 - 1353

กาฬโรค หรือ “มรณะดำ” ถือเป็นโรคระบาดที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 200 ล้านคนทั่วโลก เชื้อโรคคือแบคทีเรีย Yersinia pestis แพร่เชื้อผ่านหมัดที่อาศัยอยู่บนหนู กาฬโรคทำให้เกิดอาการรุนแรง เช่น ต่อมน้ำเหลืองบวม มีไข้ และเนื้อเยื่อตาย ทำให้ผิวหนังเป็นสีดำ การระบาดของกาฬโรคในศตวรรษที่ 14 ส่งผลกระทบต่อประชากรโลกอย่างมหาศาล ยุโรปสูญเสียประชากรไปถึง 1 ใน 3 ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองในยุคนั้นอย่างรุนแรง


2. ไข้หวัดใหญ่สเปน (Spanish Flu) - ปี ค.ศ. 1918 - 1920

ไข้หวัดใหญ่สเปน เป็นการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1 ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลกในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 แม้จะเรียกว่าไข้หวัดใหญ่สเปน แต่ต้นกำเนิดที่แท้จริงยังไม่เป็นที่แน่ชัด การระบาดครั้งนี้คร่าชีวิตผู้คนไปประมาณ 50 - 100 ล้านคน โดยเฉพาะคนหนุ่มสาวที่มีสุขภาพแข็งแรงกลับมีความเสี่ยงสูง ไข้หวัดใหญ่สเปนแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของโรคระบาด และความสำคัญของการเตรียมความพร้อมรับมือกับโรคอุบัติเกิดใหม่


3. ฝีดาษ (Smallpox) - ประมาณ 10,000 ปีก่อนคริสตกาล - ปี ค.ศ. 1980

ฝีดาษ เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่สร้างความหวาดกลัวให้กับมนุษย์มานานนับพันปี เชื้อไวรัส Variola ทำให้เกิดไข้ ผื่นขึ้นตามร่างกาย และอาจทำให้เสียชีวิตได้ ฝีดาษคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 300 ล้านคนตลอดประวัติศาสตร์ และทิ้งรอยแผลเป็นไว้บนร่างกายผู้ป่วยจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีนป้องกันฝีดาษ ทำให้โรคนี้ถูกกำจัดให้หมดไปจากโลกในปี ค.ศ. 1980 ซึ่งถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของวงการสาธารณสุข


4. อหิวาตกโรค (Cholera) - ศตวรรษที่ 19 - ปัจจุบัน

อหิวาตกโรค เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดอาการท้องร่วงอย่างรุนแรง ร่างกายสูญเสียน้ำอย่างรวดเร็ว แพร่กระจายผ่านน้ำและอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรค อหิวาตกโรคระบาดเป็นระลอกใหญ่ 7 ครั้งในช่วงศตวรรษที่ 19 - 20 คร่าชีวิตผู้คนไปนับล้าน แม้ปัจจุบันอหิวาตกโรคยังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขในประเทศกำลังพัฒนา แต่ความก้าวหน้าด้านสุขอนามัยและระบบสาธารณสุข ช่วยควบคุมการระบาดให้อยู่ในวงจำกัดได้


5. วัณโรค (Tuberculosis) - ยุคโบราณ - ปัจจุบัน

วัณโรค เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Mycobacterium tuberculosis แพร่เชื้อผ่านทางอากาศจากการไอหรือจามของผู้ป่วย วัณโรคเป็นโรคติดต่อที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดโรคหนึ่ง โดยเฉพาะในช่วงศตวรรษที่ 19 องค์การอนามัยโลกคาดการณ์ว่ามีผู้ป่วยวัณโรคทั่วโลกประมาณ 10 ล้านคนต่อปี และมีผู้เสียชีวิตจากวัณโรคประมาณ 1.5 ล้านคน แม้จะมีวัณโรคมาตั้งแต่ยุคโบราณ แต่วัณโรคดื้อยาก็เป็นปัญหาที่ท้าทายต่อการรักษา


โรคระบาด ช่วงเวลา จำนวนผู้เสียชีวิต (โดยประมาณ)
กาฬโรค ค.ศ. 1346 - 1353 200 ล้านคน
ไข้หวัดใหญ่สเปน ค.ศ. 1918 - 1920 50 - 100 ล้านคน
ฝีดาษ ~ 10,000 ปีก่อนคริสตกาล - ค.ศ. 1980 300 ล้านคน
อหิวาตกโรค ศตวรรษที่ 19 - ปัจจุบัน นับล้านคน
วัณโรค ยุคโบราณ - ปัจจุบัน นับพันล้านคน


แม้โรคระบาดเหล่านี้จะสร้างความเสียหายร้ายแรง แต่ก็สอนให้มนุษย์เรียนรู้ถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์ การแพทย์ และความร่วมมือกัน เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางสุขภาพ ปัจจุบันองค์กรและหน่วยงานต่างๆ ทั่วโลกกำลังพยายามป้องกัน และควบคุมโรคระบาด รวมถึงพัฒนาวิธีการรักษาใหม่ๆ เพื่อปกป้องมนุษยชาติจากภัยคุกคามในอนาคต


#โรคระบาด #ประวัติศาสตร์ #สาธารณสุข #โควิด19

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส